การวางแผนเป็นองค์ประกอบสำคัญในความสำเร็จของธุรกิจ การพัฒนาแผนธุรกิจไม่ได้เป็นเพียงข้อกำหนด แต่เป็นความจำเป็นพื้นฐานในการสร้างธุรกิจในปัจจุบัน เป็นความจริงที่ตรงไปตรงมาว่าทุกธุรกิจจำเป็นต้องมีแผน เริ่มตั้งแต่องค์กรขนาดใหญ่ไปจนถึงผู้ประกอบการ การพัฒนาแผนธุรกิจจะช่วยสร้างกรอบการทำงานที่จะผลักดันธุรกิจของเขาไปสู่จุดหมายปลายทางที่แท้จริง แผนธุรกิจช่วยพัฒนาแนวทางการทำงาน วางแผนกลยุทธ์ ทำความเข้าใจตลาดเป้าหมาย วัดประสิทธิภาพ ติดตามความคืบหน้า จัดทำแผนในอนาคต และระดมเงินทุนเพิ่มเติมเพื่อขยายหรือส่งเสริมการดำเนินงาน
บ่อยครั้งความคิดในใจของเจ้าของธุรกิจหรือนักลงทุนส่วนใหญ่คือความล้มเหลว วิธีเดียวที่จะเอาชนะความล้มเหลวนี้ได้คือต้องระบุสาเหตุทั่วไปที่ทำให้ธุรกิจล้มเหลวล่วงหน้า ปัจจุบันโลกกำลังเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจ การล่มสลายของเศรษฐกิจโลก ต้นทุนสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูง อัตราการยึดสังหาริมทรัพย์ที่สูง และความยากลำบากในการได้รับสินเชื่อจากธนาคาร การแข่งขันที่รุนแรง กฎหมายภาษีที่ซับซ้อน และต้นทุนการดำเนินงานที่สูง เป็นต้น ความท้าทายทั้งหมดนี้ต้องเผชิญ ธุรกิจในปัจจุบันยังทำให้การอยู่รอดของธุรกิจสตาร์ทอัพมีความท้าทายมากขึ้นอีกด้วย ในโลกปัจจุบัน ธุรกิจทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ได้ตระหนักถึงความจำเป็นในการประเมินศักยภาพทางธุรกิจและกำหนดกลยุทธ์สำหรับอนาคต
อย่างไรก็ตาม การวางแผนที่ไม่เพียงพอเป็นสาเหตุที่ทำให้ธุรกิจจำนวนมากล้มเหลว และอัตราความล้มเหลวนั้นมีมากมายมหาศาล มักเชื่อกันว่าธุรกิจส่วนใหญ่ล้มเหลวในปีแรกของการดำเนินงาน และในบรรดาธุรกิจที่ล้มเหลวนั้น 80% ไม่มีแผนการวิจัยที่ดี สังเกตได้ว่าความล้มเหลวทางธุรกิจไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับธุรกิจขนาดเล็กเพียงอย่างเดียวซึ่งผมเลือกไม่ได้กล่าวถึงในที่นี้ลงไปด้วย แม้ว่าอัตราความล้มเหลวจะมีนัยสำคัญอย่างมากในธุรกิจขนาดเล็ก และเป็นเหตุผลหลักว่าทำไมจึงต้องมีแผนธุรกิจที่ดี อาจใช้สำหรับระดมเงินสดเพิ่มเติมและเพื่อให้นักลงทุนและผู้ให้กู้มีข้อมูลที่จำเป็นในการตัดสินใจลงทุน ทำให้การพัฒนาแผนธุรกิจมีความสำคัญอย่างยิ่ง แผนธุรกิจต้องโดดเด่นและการคาดการณ์ต้องมั่นคงเนื่องจากมีการแข่งขันที่สูงขึ้นในการดึงดูดเงินทุนสำหรับธุรกิจของเขา นักลงทุนไม่เสี่ยงเงินกับธุรกิจที่ไม่ได้พิสูจน์ว่ามีศักยภาพที่ดีสำหรับพวกเขาอีกต่อไป
แผนธุรกิจก็เปรียบเสมือนแผนที่แสดงเส้นทางที่ต้องใช้ หลุมพรางที่ต้องหลีกเลี่ยงเพื่อไปให้ถึงจุดหมาย เช่น ถ้าใครตัดสินใจเดินทางทางถนนจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง เขาก็ต้องมีถนนก่อน แผนที่ที่แสดงเส้นทางให้เขาไป เขาจะต้องกำหนดระยะทางและปริมาณน้ำมันที่รถของเขาจะต้องพาเขาไปยังจุดหมายปลายทาง นอกจากนี้ เขาจะต้องคำนวณว่าจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางเท่าใด หากเขาตั้งใจจะหาเงิน ถ้าเขายืมเงิน เขาตั้งใจจะคืนเงินอย่างไร เมื่อพิจารณาทั้งหมดนี้แล้ว ตอนนี้เขามีแผนการเดินทางที่จะพาเขาไปยังจุดหมายปลายทางแล้ว ในทำนองเดียวกัน นั่นคือสิ่งที่แผนธุรกิจมอบให้ กลยุทธ์ เส้นทาง และแผนงานสู่ความสำเร็จ
บังเอิญว่าแนวคิดในการทำงานกับแผนธุรกิจคือการมุ่งความสนใจไปที่เป้าหมายที่ตั้งไว้ สถิติระบุว่าธุรกิจจำนวนมากล้มเหลวเนื่องจากการวางแผนไม่เพียงพอ หากใครไม่รู้ว่าตนกำลังมุ่งหน้าไปทางไหน เส้นทางใดๆ ก็ดูเหมือนจะถูกทางแล้ว คนส่วนใหญ่ทำผิดพลาดครั้งใหญ่ด้วยการกระโดดเข้าสู่ธุรกิจโดยไม่มีการเตรียมการและการวางแผนที่เพียงพอ แผนธุรกิจที่ดีจะช่วยให้เรายังคงมุ่งเน้นไปที่เป้าหมายของเขาและดำเนินการตามกลยุทธ์ที่แผนนั้นช่วยเขาในการสร้าง เช่นเดียวกับถนน จะต้องปรึกษาแผนธุรกิจเพื่อรักษาความมุ่งมั่นของเขาและไม่ดำเนินธุรกิจในแบบของคนธรรมดา
การทำงานกับแผนธุรกิจจะช่วยป้องกันไม่ให้เข้าสู่ดินแดนที่ไม่คุ้นเคย แผนดังกล่าวจะกลายเป็นแผนที่การทำงานสำหรับเขาและองค์กรของเขา ฉันไม่ได้อธิบายสิ่งที่ต้องทำและสิ่งที่ไม่ควรทำ หน้าที่ และวิธีที่ทุกคนและทุกแผนกควรดำเนินการ ช่วยให้คนๆ หนึ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดของเสียและความซ้ำซ้อน จัดสรรทรัพยากรของตนไปยังสถานที่ที่ถูกต้อง และเป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ
ในฐานะเครื่องมือด้านประสิทธิภาพ จะวัดความก้าวหน้าของเป้าหมายในธุรกิจของตนโดยการติดตาม ติดตาม และประเมินผล และยังสามารถใช้เป็นจุดตรวจสอบในการวัดประสิทธิภาพได้อีกด้วย โลกทุกวันนี้มีความเปลี่ยนแปลงมากจนสิ่งที่ใช้ในวันนี้อาจใช้ไม่ได้ในวันพรุ่งนี้ และด้วยเหตุนี้ จึงจำเป็นต้องมีการจัดทำแผนธุรกิจที่ดีเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ
นอกเหนือจากเครื่องมือด้านประสิทธิภาพแล้ว แผนธุรกิจที่สมบูรณ์แบบควรมีเครื่องมือที่จำเป็นอื่นๆ ในระบบด้วย ซึ่งทำให้แผนธุรกิจสมบูรณ์แบบจริงๆ จะต้องมีเครื่องมือด้านทรัพยากรบุคคล เครื่องมือทางการตลาดและกลยุทธ์ เครื่องมือทางการเงิน เครื่องมือสื่อสาร และที่สำคัญที่สุดคือคู่มือนักลงทุน